วันอังคารที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2558

วิธีทำให้หน้าใส

ผู้หญิงอย่าหยุดสวย มาใส่ใจดูแลตัวเองกันเถอะ !

ไม่ได้มาชวนเพื่อนๆ ไปเข้าคอร์ส นวดหน้า ขัดหน้ากันให้วุ่นวาย แค่มากระซิบบอกว่า พาหน้าไปเจอบ้างเถอะ ครีมหน่ะ... บางคนผิวหน้าใกล้เคียงกับเกล็ดปลาขาดน้ำ เหมือนทั้งชาติ ผิวหน้าไม่เคยสัมผัสกับ มอยเจอร์ไรเซอร์ ปัจจุบัน มีครีมทาหน้าวางขายกันมากมายในท้องตลาด มีตั้งแต่กระปุกละไม่ถึงร้อย จนขั้นเหยียบหมื่นเลยก็มี แต่ท่องเอาไว้นะคะว่าของถูกและดีมีในโลก ...อยู่ที่เลือก เราเลือกให้เหมาะกับผิว และ กระเป๋าตังค์เราครีมที่ดีจะไม่ข้นจนเกินไป ... 
พวกไวท์เทนนิ่ง ก็ไม่จำเป็นหรอก ที่มันขาว มันขาวแป้งค่ะ ผสมแป้งลงในเนื้อครีม ดีไม่ดี ไปอุดตันรูขุมขน สิวจะถามหากันเสียเปล่าๆ แนะนำว่าถ้าทุนน้อย ใช้จอห์นสัน ครีมทาหน้าธรรมดานี่แหละกระปุกไม่ถึงร้อย ทาทุกคืนก่อนนอน ให้ผิวได้รับการบำรุง อ้อ... แล้วอย่าไปคิดว่า ทาวันนี้ พรุ่งนี้จะลุกขึ้นมาปิ๊งปั๊ง ของแบบนี้มันต้องใช้เวลา แต่เชื่อเถอะว่ามันดีกับผิวคุณแน่ในระยะยาว อย่างน้อยผิวคุณก็แข็งแรง ไม่เป็นริ้วรอยและจุดด่างดำง่าย เพราะผิวหน้าเป็นผิวที่อยู่นอกร่มผ้า สัมผัสปะทะ กับแดด กับลม และมลภาวะโดยตรง ก็คงต้องบำรุงกันหน่อยนะคะ สำหรับผู้ที่ต้องออกแดดบ้าง แนะนำว่าช่วงกลางวันให้ซื้อหาครีมกันแดดมาทากัน ไม่ต้องซื้อแพงมาก เลือกสัก SPF 20-30 กำลังดี ลองไปเลือกหาดู ไม่แพงอย่างที่คิดหรอกค่ะ

แนะนำไปเบื้องต้นแล้วมาดูข้อสำคัญๆกันบ้างดีกว่า

 1.คุณจะต้องนอนไม่เกิน 4 ทุ่ม ให้นอนระหว่าง 3 - 3.30 ทุ่ม 
ข้อแรกสำคัญค่ะ อย่านอนดึก

 2.อย่าล้างหน้าบ่อย ให้ล้างวันละ 2 ครั้ง มากสุด 3 ครั้ง
เพราะจะทำให้หน้าคุณบางลง เมื่อหน้าคุณบางหน้าคุณจะอ่อนแอ 
แพ้ง่ายทำให้เป็นสิวได้ง่าย แต่มีบางคนเค้าเถียงว่าถ้าไม่ล้างหน้า 
บ่อยๆจะทำให้หน้ามัน(สำหรับบางคนที่หน้ามันง่าย)แล้วสิวจะขึ้น 
มีวิธีแก้คือให้ใช้วิธีทาแป้งบ่อยๆค่ะ หน้าคุณจะไม่มันแต่ถ้าคุณแพ้ 
แป้งละก็ให้ใช้ดินสอพองผสมกับน้ำมะนาว(ดีจริงขอบอก)โบ๊ะหน้าไว้ 
ถ้ามันแห้งอย่าทำซ้ำค่ะวันละ1ครั้งพอ เพื่อไม่ให้หน้ามัน

 3.ควรออกกำลังกายด้วยวันละ 1 ครั้ง นานเท่าไหร่แล้วแต่ ประมาน 30 นาที ก็พอ
เมื่อคุณออกกำลังหายเสร็จ อย่าพึ่งล้างหน้าโดยเด็ดขาด 
ถ้าคุณล้างหน้าเลยจะทำให้เกิดฝ้าขึ้นได้ เพราะหน้าคุณกำลังร้อนอยู่เจอน้ำเย็น 
จะทำให้ใบหน้าของคุณเสียได้และขึ้นฝ้า(ควรนั่งพักให้หายเหนื่อยสัก 10นาที แล้วอาบน้ำเลย) 

 4.กินน้ำเยอะๆ เยอะๆนี่ไม่ได้หมายความว่า 7-8 แก้วนะคะ กินเมื่อปัสสาวะ 
เมื่อปัสสาวะเสร็จก็ดื่มน้ำอย่างน้อย ครึ่งแก้วตามเสมอมันจะระบายของเสียออกจากร่างกายคุ
ณและหน้าคุณจะใสไร้ สิว 

 5.อย่ากินของมันๆ เช่น หมูสามชั้น หรือของหวานๆเช่น ช็อคโกแลต จะทำให้สิวขึ้นได้

 6.ถ้าสิวขึ้นก็อย่าแกะ ปล่อยไว้ เดี๋ยวก็ยุบเอง ใช้โฟมล้างหน้าสูตรรักษาสิว หลังล้างหน้าก็เช็ดด้วยโทนเนอร์ด้วย เพราะล้างหน้าอย่างเดียวมันไม่สะอาดพอหรอกค่ะ 
ห้ามแกะนะ ห้ามแกะ ห้ามบีบ ห้าม ห้าม ห้าม!!!

 7.พยายามอย่าให้หน้าคุณโดนแดดแรงๆมากๆจะทำให้สิวขึ้น 

 8.คุณควรจะแยกผ้าใช้ เช่น ผ้าเช็ดหน้าก็ส่วนผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัวก็ส่วนผ้าเช็ดตัว อย่างนี้เป็นต้น 

 9.อย่าพยายามให้หน้าคุณโดนฝุ่นผงเพราะจำทำให้คุณเป็นสิวหัวช้างได้ หมอน ที่นอน หมั่นทำความสะอาดด้วยนะคะ

 10.สำหรับผู้หญิง คือเวลามีประจำเดือนเนี่ย แนะนำค่ะให้ กินน้ำส้ม วันละ2-3แก้ว 

 11. คนที่ทาเเป้งบ่อยเกินเหตุ จะเป็นสิวได้ง่ายค่ะ เพราะรูขุมขน มันอุดตัน แนะนำให้ เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน ถ้าเล่นอะไรมาแล้ว เหงื่อออก ให้เอาผ้าสะอาดเช็ด อย่าใช้แป้งทา 
(ผู้หญิงสมัยนี้ติดแป้งมาก)  ทำตามที่เราเขียนไว้นะคะ

อ๊ะ อ๊ะ ยังไม่หมด !!

มีแถมค่ะ

6 เทคนิคการดูแลผิวหน้าด้วยผลไม้

ทุกวันนี้ผิวโดนทำร้ายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแสงแดด หรือมลภาวะต่างๆ ถึงเวลา Back to the nature เพิ่มเติมความสดใสคืนสู่ผิวกันแล้วนะจ๊ะ สำหรับหนุ่มสาวที่อยากหน้าใสสวยเด้ง ฟังทางนี้ เรามี 6 สูตรมาร์คหน้าง่ายๆ ที่จะทำให้หน้าขาวใส มาฝากกันโดยใช้ผลไม้มาเป็นส่วนประกอบหลัก

1.สูตรหน้าใสด้วยน้ำผึ้งผสมมะนาว

ส่วนผสม:  น้ำผึ้ง 1 ถ้วย

น้ำมะนาว 1 ช้อนชา

วิธีทำ: ผสมน้ำผึ้งกับน้ำมะนาวให้เข้ากัน นำมานวดให้ทั่วใบหน้าประมาณ 15 นาที หลังจากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด

มะนาว จะช่วยขจัดเซลล์ผิวเช่นเดียวกับครีมที่ผสมกรด AHA ส่วนน้ำผึ้งจะทำให้ผิวหน้านุ่มและชุ่มชื้น

2. สูตรหน้าใสด้วยแอปเปิ้ล

ส่วนผสม: แอปเปิ้ล ปอกเปลือกแล้วคว้านเอาเฉพาะเนื้อ

น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ: นำเนื้อแอปเปิ้ลมาปั่นรวมกับน้ำผึ้ง ทาให้ทั่วใบหน้าแล้วนวดเบาๆ ทิ้งไว้ 15 นาที หลังจากนั้นล้างออกด้วยน้ำเย็น

สูตรนี้จะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกไป เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า ทำให้ใบหน้าดูสดใสเปล่งปลั่ง อีกด้วย

3. สูตรกระชับรูขุมขน

ส่วนผสม: กล้วยหอม แตงกวาหรือมะเขือเทศ เลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่งปอกเปลือก เอาเมล็ดออกให้หมดแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ

น้ำผึ้งหรือนมเปรี้ยว

วิธีทำ: ใช้กล้วยหอม แตงกวาหรือมะเขือเทศก็ได้ เติมน้ำผึ้งหรือนมเปรี้ยว นำไปปั่นให้ละเอียดจนเป็นเนื้อครีม นำมาพอกให้ทั่วใบหน้าและลำคอ ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่น

สูตรนี้จะ ช่วยทำความสะอาดใบหน้า และกระชับรูขุมขนและบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น

4. สูตรครีมทำความสะอาดผิวหน้า (Cleanser)

ส่วนผสม: โยเกิร์ต ½ ถ้วย

น้ำมันดอกทานตะวัน

มะนาวสด1½ ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ: ผสมโยเกิร์ต น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมะนาวสดให้เข้ากัน นำมาพอกให้ทั่วหน้าประมาณ 5 นาที ทุกเช้าและก่อนนอน แล้วจึงล้างออก ด้วยน้ำสะอาด

สูตรนี้ใช้ได้กับทุกสภาพผิว จะช่วยทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างล้ำลึก และบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นอีกด้วย

5. สูตรสาวผิวแห้ง มอยเจอร์ไรเซอร์จากกล้วย

ส่วนผสม: กล้วย 1 ผล

น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ: บดกล้วยกับน้ำผึ้ง ผสมให้เข้ากัน นำมาพอกให้ทั่วใบหน้าทิ้งไว้ 15 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่น จะทำให้ผิวหน้าชุ่มชื้นขึ้น

สูตรนี้เหมาะกับผิวแห้ง

6. สูตรพอกหน้าใสจากแตงกวา

ส่วนผสม: แตงกวา 1 ผล หั่นแตงกวาเป็น ชิ้นบางๆ

ไข่ไก่ 1 ฟอง(ใช้เฉพาะไข่ขาว)

น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ: นำแตงกวา ไข่ไก่(ใช้เฉพาะไข่ขาว)และมะนาว ไปปั่นจนละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน นำมาพอกให้ทั่วใบหน้า เว้นรอบปากและดวงตา ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วจึงล้างหน้าตามปกติ หมั่นทำบ่อยๆ ทุกสัปดาห์ จะช่วยลดความมันส่วนเกิน และยังช่วยกระชับรูขุมขน ผิวหน้าจะ ดูเนียนเรียบและชุ่มชื้น

เหมาะสำหรับผิวมันและผิวผสม

Tips:

ผลไม้ที่ใช้ต้องสด มีคุณภาพดีภาชนะที่ใช้ใส่ผลไม้ ส่วนผสมต่างๆ ควรใช้แก้วหรือกระเบื้องก่อนทำการพอกหน้า ควรทำความสะอาดใบหน้าให้สะอาด โดยการอัง ใบหน้ากับไอน้ำและนวดเบาๆ เพื่อเปิดรูขุมขนเวลาพอกหน้าไม่ควรพูดคุยหรืออ่านหนังสือ

วันจันทร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2558

10 ประโยชน์ของไข่



        ไข่ ซึ่งจัดได้ว่าเป็นอาหารหลักของคนทุกชนชั้นทุกชาติ จากประโยชน์ที่ไข่มอบให้กับร่างกายของคนเรานั่นเอง และต่อไปนี้คือ ประโยชน์ 10 ประการจากการบริโภคไข่ ซึ่งบางอย่างคุณอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน

     1. ไข่เป็นอาหารที่ดีสำหรับดวงตา ผลการศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่า การรับประทานไข่วันละฟองอาจจะช่วยป้องกันโรคจอประสาทตาเสื่อม ทั้งนี้เนื่องมาจากสารคาโรทีนอยด์ที่อยู่ในไข่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ลูทีน (lutein) และซีแซนทีน (zeaxanthin) ซึ่งเป็นสารที่พบบริเวณตา โดยฉาบอยู่บนผิวของเรตินา เพราะร่างกายจะได้รับสารอาหารทั้งสองอย่างนี้โดยตรงจากไข่มากกว่าอาหารชนิดอื่น

     2. ไข่ทำให้เป็นต้อกระจกน้อยลง จากผลการวิจัยอีกชิ้นหนึ่งนักวิจัยยังพบว่า คนที่กินไข่ทุกวันมีความเสี่ยงที่จะเป็นต้อกระจกน้อยลง อันเนื่องมาจากลูทีนและซีแซนทีนในไข่ดังได้กล่าวมาแล้ว

     3. ไข่อุดมไปด้วยโปรตีน โดย 1 ฟองจะมีโปรตีนคุณภาพดี 6 กรัม และกรดอะมิโนสำคัญอีก 9 ชนิด

     4. ผลจากการทำวิจัยโดยมหาวิทยาลัยแพทย์ฮาร์วาร์ดพบว่า ไม่มีความเชื่อมโยงที่สำคัญระหว่างการบริโภคไข่กับการเกิดโรคหัวใจ แถมยังมีผลการวิจัยอีกชิ้นหนึ่งที่พบว่า การบริโภคไข่เป็นประจำยังช่วยป้องกันเลือดจับตัวเป็นก้อน เส้นเลือดอุดตันในสมอง และภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน

     5. ไข่เป็นแหล่งโคลีนที่ดี โดยโคลีนอยู่ในกลุ่มของวิตามินบี จัดเป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยในการควบคุมการทำงานของสมอง ระบบประสาท และระบบไหลเวียนของเลือด โดยไข่ 1 ฟองจะมีโคลีนมากถึง 300 ไมโครกรัม

     6. ไขมันในไข่มีคุณภาพดี ไข่ 1 ฟองมีไขมันอยู่ 5 กรัม และมีเพียง 1.5 กรัมเท่านั้นที่เป็นไขมันชนิดอิ่มตัว

     7. แม้ว่าออกจะขัดแย้งกับความเชื่อเดิมๆ แต่งานวิจัยชิ้นใหม่กลับพบว่า การบริโภคไข่แต่พอสมควรจะไม่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อปริมาณคอเลสเตอรอล มิหนำซ้ำยังมีการศึกษาพบเมื่อเร็วๆ นี้ว่า การบริโภคไข่วันละ 2 ฟองเป็นประจำวันไม่มีผลกระทบต่อระดับไขมันในร่างกาย มิหนำซ้ำอาจจะช่วยทำให้ไขมันดีขึ้น โดยผลการวิจัยกล่าวว่า ไขมันอิ่มตัวจะทำให้ระดับคอเรสเตอรอลเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าคอเลสเตอรอลที่อยู่ในอาหาร 

     8. กินไข่ได้วิตามินดี เพราะไข่เป็นอาหารเพียงชนิดเดียวที่เป็นแหล่งวิตามินดีตามธรรมชาติ

     9. ไข่อาจจะช่วยป้องกันมะเร็งเต้านม โดยผลการศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่า ผู้หญิงที่รับประทานไข่ 6 ฟองต่อสัปดาห์ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งเต้านมลงร้อยละ 44

     10. ไข่ทำให้เส้นผมและเล็บมีสุขภาพดี เพราะว่าไข่มีซัลเฟอร์สูง รวมถึงยังมีวิตามินและแร่ธาตุอีกหลายชนิด หลายคนจึงพบว่าผมยาวเร็วขึ้นหลังจากที่เพิ่มไข่เข้าไปในอาหารที่รับประทาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนที่เคยขาดอาหารที่มีซัลเฟอร์หรือวิตามินบี12 มาก่อน 

                  การบริโภคไข่ที่เหมาะสม        

          แม้ว่าไข่จะมีคุณประโยชน์มากมาย แต่หลายคนก็ยังกังวล ฉะนั้นการกินไข่ในปริมาณที่เหมาะสมกับวัย ควบคู่กับการออกกำลังกายเป็นประจำจึงน่าจะเป็นทางเลือกที่ดี โดยคนแต่ละวัยสามารถบริโภคไข่ได้ดังนี้

          - เด็กอายุ 1 ปีจนถึงเด็กวัยเรียนสามารถบริโภคไข่ได้วันละ 1 ฟอง
          - ผู้ใหญ่ที่มีภาวะร่างกายปกติสามารถบริโภคไข่ได้ 3-4 ฟองต่อสัปดาห์
          - คนวัยทำงานสุขภาพดี สามารถบริโภคไข่ได้วันละ 1 ฟองทุกวัน ไม่เพิ่มคอเลสเตอรอลและไม่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ
          - กลุ่มผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจ หรือโรคที่ต้องหลีกเลี่ยงอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูงสามารถบริโภคไข่เพียง 1 ฟองต่อสัปดาห์ หรือตามคำแนะนำของแพทย์

มะนาวมีประโยชน์มากมาย



          ประโยชน์ของมะนาวนั้นมีมากมายไม่แพ้รสชาติที่เปรี้ยวปรี๊ด จี๊ดจ๊าด ซึ่งอยู่คู่คนไทยมานับตั้งแต่โบราณ

          เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงจะชอบทานรสเปรี้ยวอย่างแน่นอน ซึ่งรสชาติเปรี้ยวเหล่านั้นก็มาจาก หลาย ๆ ที่มา เช่น มะขามเปียก มะกรูด กรดมะนาว น้ำส้มสายชู เป็นต้น แต่คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่ารสชาติเปรี้ยวที่โดนใจคนไทยมากที่สุดนั้นก็คือรสชาติเปรี้ยวจากมะนาว ซึ่งนอกจากมะนาวจะให้รสชาติที่โดนใจคนมากมายแล้ว เจ้ามะนาวลูกกลม ๆ นี้ยังมีสรรพคุณทางยาและมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย วันนี้กระปุกดอทคอมจะขอพาทุกคนไปรู้จักกับมะนาวให้มากขึ้นกันนะคะ 

 มะนาวและความเป็นมา

          มะนาว มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Lime และมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Citrus Aurantifolia Swingle หรือ Citrus Aurantifolia Swing เป็นพืชที่มีต้นกำเนิดอยู่แถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งเป็นผู้ที่เรียนรู้การใช้มะนาวเป็นอย่างดีรวมทั้งประเทศไทยด้วย มะนาวเป็นพืชที่ออกผลตลอดทั้งปี แต่ในช่วงหน้าแล้งจะออกผลน้อยกว่าปกติ

          มะนาวเป็นพืชเศรษฐกิจที่ทำรายได้ให้กับประเทศได้มากมายในแต่ละปี เพราะมะนาวนั้นสามารถนำไปปรุงอาหารได้มากมายและยังสามารถนำมาเป็นเครื่องดื่ม หรือนำไปเป็นส่วนประกอบในเครื่องดื่มต่าง ๆ ได้

 ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของมะนาว

          มะนาวมีลักษณะเป็นไม้พุ่ม สูง 2-4 เมตร กิ่งอ่อนมีหนามแหลม เปลือกต้นเรียบ สีน้ำตาลปนเทา มีใบย่อยใบเดียว ลักษณะใบเป็นรูปไข่หรือรูปรียาว กว้าง 3-5 ซม. และยาว 4-8 ซม. ปลายใบแหลม โคนใบมน มีปีกแคบ ๆ ขอบใบหยัก แผ่นใบมีต่อมน้ำมันกระจายอยู่ตามผิวใบ ออกดอกเป็นช่อสั้น 5-7 ดอก หรือออกดอกเดี่ยวตามซอกใบ ดอกมีสีขาว กลีบดอกมี 4-5 กลีบ หลุดร่วงง่าย ผลมีรูปทรงกลม ผิวเรียบเกลี้ยง ผลอ่อนสีเขียวเข้ม พอแก่เป็นสีเหลือง มีรสเปรี้ยว เมล็ดกลมรี สีขาว มี 10-15 เมล็ด 


 มะนาว สรรพคุณอันน่าอัศจรรย์

          รู้หรือไม่ว่ามะนาวถือเป็นยาอายุวัฒนะชนิดหนึ่งเพราะมะนาวเป็นพืชที่มีคุณประโยชน์แทบทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นราก ใบ ดอก เมล็ด เปลือกของผลมะนาว หรือแม้แต่น้ำมะนาว ต่างก็มีสรรพคุณทางยามากมายจนน่าอัศจรรย์ นอกจากนี้ยังช่วยดูแลผิวพรรณให้ผุดผ่อง ใช้ทำความสะอาดเครื่องเรือนและ แถมยังช่วยเจริญอาหารอีกด้วย

          มะนาวกับสรรพคุณทางยา

          มะนาวถือเป็นพืชที่ดีต่อสุขภาพอย่างแท้จริง เพราะมะนาวมีส่วนช่วยในรักษาโรคและอาการต่าง ๆ ได้มากมาย เช่น ช่วยบรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ ช่วยแก้อาเจียนอันเนื่องมาจากความผิดปกติของธาตุในร่างกาย รักษาอาการลมเงียบ รักษาอาการตาแดง ช่วยบรรเทาอาการไข้

 

          นอกจากนี้ยังมีวิตามินซีสูง ช่วยในการรักษาอาการเลือดออกตามไรฟันหรือโรคลักปิดลักเปิด ช่วยบรรเทาอาการไอและขับเสมหะ บรรเทาอาการต่อมทอนซิลอักเสบ ลดอาการเหงือกบวม เพราะมีวิตามินซีสูง มะนาวยังช่วยขับพยาธิและรักษาอาการท้องผูก ท้องอืด ปวดท้อง ท้องแน่น ท้องเฟ้อ รักษาอาการอาการโรคกระเพาะ ท้องร่วง แก้อาการบิด รักษาอาการปัสสาวะกระปริบกระปรอยหรือขัดเบา ช่วยฟอกและบำรุงโลหิตรักษาอาการโลหิตจาง แก้โรคเหน็บชา และยังช่วยรักษาอาการปวดข้อได้ 

          มะนาวเป็นพืชที่มีกรดซึ่งดีต่อร่างกายอยู่เป็นส่วนประกอบ ภายในน้ำมะนาวนั้นมี กรดซิตริค (Citric Acid) กรดมาลิค (Malic Acid) และกรดแอสคอร์บิก (Ascorbic Acid) ซึ่ง กรดซิตริคนั้นช่วยในการขจัดแคลเซียมที่สะสมอยู่ในหลอดเลือดแดง ตับอ่อน และช่วยในการสลายนิ่วในไต้ได้ และยังช่วยในการขจัดล้างสารพิษโดยการกระตุ้นด้วยเอนไซม์ธรรมชาติ ซึ่งช่วยบำรุงให้ผิวพรรณดีขึ้น 

          มะนาวนั้นอุดมไปด้วยสารฟลาโวนอยด์ ซึ่งสารฟลาโวนอยด์นั้น ไม่เพียงแต่ช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพของวิตามินซี แต่ยังช่วยในการควมคุมระบบความดันโลหิตและช่วยลดอาการอักเสบได้อีกด้วย นอกจากนี้ในมะนาวยังมีสารลิโมนอยด์และโมดิฟายด์ ซิตรัส เพคติน ซึ่งปรากฎในการศึกษาครั้งล่าสุดว่าช่วยในการหยุดยั้งการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง, ชะลอการเจริญเติบโตและทำให้เซลล์มะเร็งนั้นตายในที่สุด ซึ่งถือว่าช่วยในการรักษามะเร็งได้ส่วนหนึ่งด้วย

 คุณค่าทางโภชนาการของมะนาว 

ข้อมูลจากกระทรวงเกษตรฯ ของสหรัฐอเมริกา (USDA) ระบุว่า ในมะนาวดิบ 1 ผล ปริมาณ 100 กรัม มีคุณค่าทางโภชนาการที่สำคัญ ดังนี้ 

          - น้ำ 88.26 กรัม

          - พลังงาน 30 แคลอรี่

          - โปรตีน 0.70 กรัม

          - ไขมัน 0.20 กรัม

          - คาร์โบไฮเดรต 10.54 กรัม

          - ไฟเบอร์ 2.8 กรัม

          - น้ำตาล 1.69 กรัม

          - แคลเซียม 33 มิลลิกรัม

          - แมกนีเซียม 6 มิลลิกรัม

          - ฟอสฟอรัส 18 มิลลิกรัม

          - โพแทสเซียม 102 มิลลิกรัม

          - โซเดียม 2 มิลลิกรัม

          - วิตามินซี 29.1 มิลลิกรัม

          - วิตามินเอ 50 IU


 มะนาวกับการลดความอ้วน

          เชื่อหรือไม่ว่า มะนาวสามารถช่วยในการลดความอ้วนได้ เพราะมะนาวมีกรดต่าง ๆ ซึ่งช่วยในการสลายไขมัน นอกจากนี้มะนาวยังมีวิตามินซีสูง เมื่อได้รับเข้าไปในปริมาณที่พอเหมาะก็จะทำให้ไขมันในร่างกายลดลง ระดับไตรกลีเซอไรด์จะเป็นปกติ ไขมันเลวจะลดลงและช่วยให้ไขมันดีเพิ่มขึ้นอีกด้วย 

          สูตรน้ำมะนาวลดความอ้วน

          ส่วนผสม มะนาว 1 ผล, น้ำตาลทรายแดง หรือน้ำผึ้ง 2 ช้อนชา, เกลือป่นปลายช้อนชา, น้ำอุ่น หรือน้ำอุณหภูมิปกติ 1 แก้ว

          วิธีทำ ชงน้ำผึ้งหรือน้ำตาลทรายแดงกับเกลือในน้ำอุ่นจนละลาย ทิ้งไว้สักครู่ให้น้ำอุณหภูมิปรกติ แล้วบีบน้ำมะนาว 1 ผล เพราะหากน้ำยังร้อน ความร้อนก็จะทำลายวิตามินซีในมะนาว คนแล้วรีบดื่มให้หมด ควรดื่มก่อนนอนสัก 15-20 นาที

          การดื่มน้ำมะนาวก่อนนอนนั้นจะทำให้ร่างกายจะได้วิตามินซี แม้มะนาวว่าจะมีกรดซิตริก กรดมาลิค แต่เมื่อผ่านกระบวนการย่อยของร่างกายจะแปรสภาพเป็นด่างที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ถ้าดื่มทุกวันเป็นประจำ ร่างกายจะแข็งแรงสุขภาพโดยรวมจะดีขึ้น ไม่เป็นหวัดง่าย กระดูกแข็งแรง และทำให้ผอมลงอีกด้วย

 มะนาวกับความงาม

          มะนาวถูกใช้ในการรักษาผิวพรรณมานานตั้งแต่สมัยโบราณ นอกจากจะใช้เพื่อบำรุงผิวพรรณแล้ว ยังช่วยในการรักษาโรคผิวหนังบางชนิดอีกด้วย เพราะมะนาวอุดมไปด้วยวิตามินซีซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระสาเหตุของริ้วรอยและช่วยให้ผิวกระชับเต่งตึงดูอ่อนเยาว์กว่าวัยค่ะ

 

          สิวหายเกลี้ยงด้วยมะนาว

          ส่วนผสม มะนาว 1 ช้อนชา, ไข่ขาว 1 ช้อนชา

          วิธีทำ นำไข่ขาวผสมกับน้ำมะนาวแล้วตีจนเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นแต้มลงที่บริเวณตุ่มสิวทิ้งไว้ 30 นาที ล้างออกด้วยโฟมหรือเจลล้างหน้าสูตรอ่อนโยน

          เล็บสวยด้วยน้ำมะนาว

          น้ำมะนาวสามารถใช้ในการบำรุงเล็บเพื่อให้เล็บเราสวยและแข็งแรงได้ โดยการฝานมะนาวพร้อมเปลือกออกเป็นซีก ๆ แล้วเอามาขัด ๆ ถู ๆ ตามเล็บมือเล็บเท้าเพื่อเป็นการทำความสะอาด โดยถูไปตั้งแต่ผิวเล็บ ตลอดจนทุกซอกทุกมุมของเล็บ สูตรนี้สามารถทำได้บ่อย ๆ เพราะเล็บเป็นเซลล์ที่ตายแล้ว ดังนั้นจะไม่มีอาการแพ้แน่นอน ใครที่อยากมีเล็บสวย ๆ ก็ลองเอาไปทำได้นะคะ

          ผมนุ่มสลวยไร้รังแคด้วยมะนาว

          ส่วนผสม น้ำมะนาวว 8 ช้อนโต๊ะ, น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย

          วิธีทำ นำน้ำมะนาวผสมกับน้ำเปล่า แล้วคนให้เข้ากัน จากนั้นนวดลงบนศีรษะตั้งแต่หนังศีรษะจนถึงปลายผม ทิ้งเอาไว้ 2-3 ชั่วโมง แล้วล้างออก จะช่วยล้างรังแคเหนียว ๆ ที่ติดอยู่บนหนังศีรษะออกได้ และทำให้ผมนุ่มสลวยอีกด้วย

          พอกผิวกายด้วยน้ำมะนาว

          ส่วนผสม มะนาว 1 ผล, ดินสอพอง 5 - 6 เม็ด

          วิธีทำ นำดินสอพองที่เตรียมไว้มาบดให้ละเอียด แล้วบีบน้ำมะนาวลงในภาชนะที่ใส่ดินสอพองบด แต่ควรระวังอย่าให้เหลวจนเกินไป ล้างร่างกายให้สะอาด แล้วเช็ดตัวให้พอหมาด ๆ จากนั้นนำดินสอพองที่ผสมเอาไว้พอกลงตามร่างกายให้ทั่วแล้วทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำอุ่นแล้วตามด้วยน้ำเย็นอีกครั้ง 


          ผิวสวยใสได้ด้วยมะนาว

          ส่วนผสม มะนาว 1 ช้อนชา, น้ำมันมะกอก 1 ช้อนชา, เกลือ ½ ช้อนชา

          วิธีทำ นำเกลือมาผสมกับน้ำมันมะกอก ให้พอหนืด ๆ แล้วเติมน้ำมะนาวลงไปให้พอเข้มข้น คนให้เข้ากัน แล้วนำมาสครับผิว เกลือจะทำหน้าที่ลอกผิวหนังที่ตายแล้วและทำความสะอาดผิวได้เป็นอย่างดี ส่วนน้ำมะกอกทำให้ผิวเกิดความชุ่มชื่น และน้ำมะนาวจะช่วยผิวกระจ่างใสขึ้น แต่ไม่ควรผสมมะนาวเยอะเกินไปเพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองเพราะฤทธิ์มะนาวที่เป็นกรดได้

          นอกจากนี้ มะนาวยังช่วยกำจัดผิวมันได้อีกด้วยเพียงนำก้านสำลีชุบกับน้ำมะนาวเช็ดให้ทั่วใบหน้าก่อนนอน จากนั้นทิ้งเอาไว้ 1 คืน แล้วล้างออกในตอนเช้า ก็จะช่วยทำให้ผิวไม่มันค่ะ

          ฟันขาวสวยด้วยมะนาว 

          การฟอกฟันขาวโดยทั่วไปนั้นราคาแพงมาก แต่เราสามารถฟันขาวได้โดยไม่ต้องเสียเงินมากมายเพียงแค่ใช้มะนาว โดยใช้เบกกิ้งโซดาผสมกับน้ำมะนาวจนเกิดเป็นฟอง ใช้คอตตอนบัดจุ่มลงไปในที่เตรียมไว้แล้วนึกมาเช็ดบริเวณซี่ฟัน ทิ้งไว้เอาไม่เกิน 1 นาที หากทิ้งไว้นานกว่านั้นจะทำให้ฟันเสียหายได้ เสร็จแล้วขัดออกด้วยยาสีฟัน ก็จะได้ฟันที่ขาวสะอาดโดยไม่ต้องเสียเงินแพง ๆ เลยค่ะ

 ประโยชน์ของมะนาวด้านอื่น ๆ 

          นอกจากมะนาวจะช่วยในการบำรุงความงามและช่วยในการลดน้ำหนักแล้ว มะนาวยังมีประโยชน์อื่น ๆ อีกมากมายที่น่าสนใจดังนี้ค่ะ          

          - ป้องกันภัยจากงู ด้วยการใช้เปลือกวางไว้บริเวณใกล้ที่นอน ๆ งูจะไม่มารบกวนเพราะได้กลิ่นมะนาว  

          - ช่วยให้หุงข้าวมีสีขาวและอร่อยขึ้น ด้วยการนำน้ำมะนาวประมาณ 2-3 ช้อนแล้วนำไปซาวข้าว
          - ช่วยให้ไข่เจียวฟูและนิ่ม
          - ช่วยลดกลิ่นคาวจากปลาเมื่อทำอาหาร และทำให้ปลาคงรูปไม่เละ  

          - ใช้ในการล้างยางจากปลีกล้วยได้ 

          - ช่วยให้กล้วยหักมุมเชื่อมให้น่ารับประทาน ด้วยการบีบมะนาวลงไปครึ่งซีก ในขณะที่น้ำเชื่อมกำลังเดือด 

          - ช่วยป้องกันมอดในถังข้าวสารได้ 

          - เปลือกมะนาวสามารถนำมาใช้ในการทำความสะอาดเครื่องเงิน เครื่องทองเหลือง และเครื่องทองแดงได้

 น้ำมะนาวกับสรรพคุณน่ารู้

          น้ำมะนาวนอกจากจะใช้ในการปรุงอาหารและผสมในเครื่องดื่มแล้ว น้ำมะนาวยังมีสรรพคุณช่วยบำรุงสุขภาพต่าง ๆ อีกด้วย

          สูตรล้างพิษด้วย น้ำอุ่นผสมน้ำมะนาว 

          ส่วนผสม น้ำดื่ม 2 ลิตร, มะนาว 4 ลูก, เกลือป่น 2 ช้อนชา (ห้ามใช้เกลือไอโอดีน)

          วิธีทำ ผสมน้ำดื่มกับน้ำมะนาวและเกลือ แล้วค่อย ๆ ดื่มไปเรื่อย ๆ โดยมะนาวจะไปกระตุ้นให้ลำไส้ทำงาน ส่วนเกลือก็จะช่วยอุ้มน้ำไว้ไม่ให้ถูกร่างกายดูดซึมไปหมด และหลังจากดื่มน้ำมะนาวประมาณ 10-20 นาที จะเกิดอาการถ่ายท้อง เมื่อถ่ายท้องเสร็จแล้วสามารถทานอาหารได้ตามปกติ ควรทำอย่างน้อยเป็นประจำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง จะทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น และสามารถช่วยในการลดน้ำหนักอีกด้วย

ตกจากอนุสาวรีย์

https://youtu.be/MiOH0euuB7M

นาโนเทคโนโลยี



17-57-25-467_640     นาโนเทคโนโลยี  เป็นการประยุกต์ทางวิทยาศาสตร์ที่ปัจจุบันมีการพูดถึงกันมาก  และถือได้ว่าเป็นเทคโนโลยีที่มีความสำคัญในการเปลี่ยนแปลงโลกในอดีตและปัจจุบันเป็นอย่างมาก  หากเราจะเห็นสิ่งต่างๆอยู่รอบตัวเรานั้นเกิดจากสิ่งที่เล็กรวมตัวกันทำให้เกิดสิ่งใหม่หรือมีขนาดใหญ่ขึ้นซึ่งทางวิทยาศาสตร์เรียกว่า “อะตอม” โดยอะตอมจะมีการเรียงตัวกันในรูปแบบต่างๆ  ทำให้เกิดสิ่งของขึ้นมาเป็นเป็นรูปร่างและมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไม่ว่าจะเป็น  หนังสือ  โต๊ะ  ปากกา  ดินสอ  น้ำ  หรือสิ่งอื่นที่เป็นสสาร  การที่เราพบว่าสสารเหล่านั้นเกิดจากการเรียงตัวของอะตอมทำให้เราคิดค้น  นำอะตอมมาประกอบเป็นสสารที่มีคุณสมบัติใหม่   โดยอะตอมมีขนาดที่เล็กมากไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า  จำเป็นที่จะต้องใช้เครื่องมือที่เหมาะสมในการนำอะตอมมาเรียงตัวกันใหม่

                   ถึงแม้ว่าในอดีตเราจะรู้จักอะตอมหรือที่เรียกว่าโมเลกุลมานานแล้วก็ตาม  แต่ยังไม่สามารถทำไปใช้หรือว่าเปลี่ยนแปลงโครงสร้างในระดับโมเลกุลให้ได้คุณสมบัติและสสารตัวใหม่  เพียงแค่นำแร่ธาตุมาผสมกันหรือว่าย่อส่วนให้มีขนาดที่เล็กลงเท่านั้น  อย่างเช่นไมโครซิฟ  ซึ่งมีข้อจำกัดมาก  ส่งผลทำให้คิดค้นนำโมเลกุลมาจัดเรียงทำให้เกิดวัสดุใหม่ที่มีขนาดเล็กลงและมีคุณสมบัติใหม่ที่ดีขึ้นกว่าเดิม  เมื่อครั้งบริษัท  IBM  ได้นำกล้องจุลทรรศน์ที่สามารถมองเห็นการเคลื่อนที่ของอะตอม  และสามารถที่จะกำหมดการเคลื่อนที่ของโมเลกุลนั้นได้  เป็นแนวคิดต้นแบบในการนำโมเลกุลมาควบคุมและจัดเรียงใหม่  โดยใช้โมเลกุลสามารถจัดเรียงได้ตามต้องการและเที่ยงตรง

ความหมายของนาโนเทคโนโลยี

                   นาโน คือ  อัตราส่วน 1 ในพันล้าน  หรือเท่ากับ  เมตร  เราจึงพูดกันทั่วไปว่านาโนเมตร  เป็นการเรียงตัวในระดับโมเลกุลมาจัดเรียง 10 ตัว  เพื่อให้สสารที่มีคุณสมบัติใหม่ที่ดีและสามารถทำให้มีขนาดเล็กมากเหมาะสมกับการนำไปใช้ประโยชน์ตามต้องการ  เช่นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์  ผ้านาโน  หุ่นยนต์นาโน  โดยการนำเอาโมเลกุลมาจัดเรียงทาเคมีและกลศาสตร์ผสมผสานกัน

ตัวอย่าง  นาโนเทคโนโลยี
นาโนเทคโนโลยีได้นำมาประยุกต์เพื่อไปใช้งานในด้านต่างๆ  ได้มากมายและยังมีการคิดค้นจนสามารถได้อุปกรณ์ที่เกิดจากนาโนเทคโนโลยีไว้มากมาย  มีส่วนช่วยให้ชีวิตประจำของมนุษย์สะดวกสบายขึ้น  ตัวอย่างเช่น

วัสดุนาโน เป็นการสร้างวัสดุขึ้นมาใหม่หรือว่าเปลี่ยนแปลงวัสดุเดิม  โดยการสร้างและควบคุมที่น้อยกว่า 100 นาโนเมตร  ทำให้มีวัสดุที่ดี  แข็งแรงทนทาน  มีขนาดเล็กลงมาก เหมาะสำหรับการใช้งานที่มีรูปแบบต่างกัน  เช่น  ชิ้นส่วนรถยนต์  เครื่องบิน  ยานอวกาศ  วงจรอิเล็กทรอนิกส์  เซลามิกท่อนาโนคาร์บอน เป็นวัสดุตัวนำไฟฟ้าหรือกิ่งตัว  มีขนาดที่เล็ก  ที่สามารถนำไปประกอบกับอุปกรณ์ทรอนิกส์หุ่นยนต์นาโน หุ่นยนต์สามารถที่จะทำงานและได้รับพลังงานจากโปรตีนที่ร่างกายคนเราใช้เพื่อใช้ในการรักษาโรคต่างๆ  ในระดับ RAN

ประโยชน์ของนาโนเทคโนโลยี
ประโยชน์ของนาโนนั้นสามารถที่จะนำไปใช้ในด้านต่างๆ  อย่างกว้างขวาง  ทำให้มนุษย์มีความเจริญก้าวหน้าในด้านต่างๆ  และช่วยนำไปพัฒนาชีวิต  วิทยาศาสตร์  การแพทย์  การขนส่ง

คอมพิวเตอร์ มีขนาดเล็กลงและทำงานที่รวดเร็ว  ประหยัดพลังงาน  การใช้นาโนเทคโนโลยีมาผลิตอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น  ทำให้มีขนาดเล็กลง  ใช้พลังงานน้อยลง  ทำให้มีขนาดและราคาที่ลดลงรักษาโรคและอาการต่างๆ มีการนำเอานาโนเทคโนโลยีมาสร้างหุ่นยนต์ขนาดเล็กมาก  โดยสามารถเข้าไปในร่างกายผ่านกระแสเลือด  หุ่นยนต์จะทำหน้าที่หาจุดบกพร่องในระดับเซลล์  จะเข้าไปตรวจสอบและทำลายเซลล์ที่ผิดปกติในร่างกายยานยนต์และอวกาศ ในด้านวัสดุที่มีความเขาช่วยลดพลังงานในการขับเคลื่อนของเครื่องยนต์  ลดแรงเสียดทาน  มีความแข็งแรงและทนทานมากขึ้น  ในรถยนต์ได้นำมาเป็นวัสดุของเครื่องยนต์ในการสันดาปภายในโดยใช้พลังงานน้อย  และมีความแข็งแรงเมื่อเกิดอุบัติเหตุในด้านวิทยาศาสตร์ การนำนาโนเทคโนโลยีมาใช้งานด้านอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ช่วยให้มีการค้นคว้าอะไรหลายอย่างได้มากขึ้นและช่วยให้งานวิจัยได้ดีและมีความแม่นยำ จึงทำให้วิทยาศาสตร์มีความก้าวหน้าไป ทั้ง  เคมี  ชีววิทยา และอื่นๆสิ่งแวดล้อม ช่วยให้คิดค้น  อุปกรณ์ที่ประหยัดพลังงานลดใช้ทรัพยากร  และมีการปรับปรุงในอุปกรณ์และเครื่องมือที่ใช้ในการกำจัดมลพิษวัสดุอุปกรณ์ ทำให้เกิดวัสดุอุปกรณ์ที่เกิดขึ้นมาใหม่เพื่อใช้ในชีวิตประจำวันได้มากมาย  เพื่อให้มีคุณภาพที่ดีขึ้น  มีขนาดเล็กลง  มีความแข็งแรงมากขึ้น และมีคุณสมบัติที่ที่เหมาะสมกับการนำไปใช้งาน  อย่างเช่น ผ้านาโน เป็นผ้าที่ระบายอากาศได้และไม่มีกลิ่นอับไม่สะสมแบคทีเรีย  พลาสติกที่มีความแข็งแรงและขนาดเบา  เป็นต้น

ในแต่ละสสารมีโมเลกุลและคุณสมบัติเฉพาะ  ตัวอย่างรูปแบบโมเลกุล

วิธีบรรเทาอาการเสียงแหบแห้ง

                อาการของเสียงแหบแห้งเป็นอาการหนึ่งเมื่อเวลาพูดจะเป็นเสียงที่ผิดปกติแปลกไปจากเดิมหรือเป็นลักษณะที่ไม่มีเสียงไปเลย  การที่จะเปล่งเสียงออกมาจะไม่ได้ดังออกเหมือนเสียงปกติและต้องเปล่งเสียงออกมามากกว่าเดิมเพื่อให้เสียงที่ดังขึ้น  ในบางครั้งอาจจะทำให้เจ็บคอจนต้องเปล่งเสียงดังไม่ได้  ซึ่งแน่นอนว่าจะเป็นปัญหาสำหรับผู้ที่ใช้เสียงประจำ อย่างเช่นนักร้อง  ครู  หรือใครก็ตามที่ใช้การพูดเป็นหลัก
สาเหตุที่พบบ่อย  เกิดจากใช้เสียงเป็นระยะเวลานาน  ระบบทางเดินหายใจส่วนบนติดเชื้อไวรัส  ไอบ่อย  ภูมิแพ้  สูบบุหรี่  เป็นหวัด
สาเหตุที่พบได้น้อย  มะเร็วในลำคอ  ต่อมไทรอยด์อักเสบ  กล้องเสียงอักเสบ

หากพบว่าตัวเองมีอาการดังกล่าวให้รักษาโดยใช้เสียงให้ลดน้อยลง  ให้พักผ่อนอย่างเพียงพอ  ก็จะทำให้อาการบรรเทาลงได้  แต่หากต้องการรักษาให้หายเร็วขึ้นหรือผู้ที่เห็นแล้วไม่หายสักที  สามารถใช้วิธีการดังนี้เพื่อบรรเทาอาการ

1.กระเทียม  ให้ห้องครัวเราต้องมีกระเทียมอยู่แล้วถ้าไม่มีก็หาซื้อมา  ช่วยรักษาเสียงแหบได้เพราะกระเทียมสามารถฆ่าเชื้อโรคต่างๆ  ที่อยู่ในลำคอเราทำให้เสียงสดใสกลับมาดังเดิมได้  นำกระเทียม 4 – 5 กลีบ  มาบดให้ละเอียดผสมน้ำหนึ่งแก้ว  ค่อยๆจิบวันละ 3 ครั้งจนกว่าอาการจะดีขึ้น
2.มะนาว  มะนาวเป็นสมุนไพรโบราณรักษาเสียงของเราได้  โดยจะทำให้ชุ่มคอ  บรรเทาอาการเจ็บและอักเสบพร้อมกันนั้นยังมีวิตามินซี  ที่ช่วยในการต้านเชื้อโรคลดอาการอักเสบ  ใช้น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ  และน้ำผึ้งอย่าละเท่ากันผสมกับน้ำอุ่น 1 แก้วจิบที่ละน้อย  หรือนำน้ำมะนาวผ่าซีกโรยด้วยเกลือเล็กน้อย  บีบลงไปในลำคอวันละ 3 ครั้ง
3.ขิง  ขิงมีสรรพคุณในการรักษาลำคอได้ดีจึงช่วยบรรเทาอากาศเสียงแหบได้  ลดอาการอักเสบ  ช่วยในเรื่องการป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจได้  นำขิงสด  โรยเกลือกับน้ำมะนาวเล็กน้อย  รับประทานบ่อยๆ  นอกจากนั้นยังดื่มน้ำขิงอุ่น  ช่วยให้อาการเสียงแหบลดลงได้เช่นกัน
4.พริกป่น  ช่วยในเรื่องบรรเทาอาการละคายเคืองที่ลำคอ  ลดอาการติดเชื้อในลำคอ  นำพริกป่น 1 ช้อนชา  ผสมน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ  กินได้เลยหรือหากเผ็ดมากก็ลดพริกป่นเป็นครึ่งช้อนชา
5.น้ำผึ้ง  น้ำผึ้งมีประสิทธิภาพ  บรรเทาอาการละคายเคืองที่ลพคอ  ทำให้ซุ่มคอ  ใช้น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำอุ่น 1 แก้ว  ช่วยให้อาการเสียงแหบดีขึ้น
6.น้ำเกลือบ้วนปาก  ใช้เกลือ 1 ช้อนชาผสมกับน้ำอุ่นคนให้เข้ากันละลายให้มดแล้วทำเป็นน้ำยาบ้วนปาก  วันละ 2 ครั้ง

เล็บบอกโรค

โรคเกือบทุกโรคมักเกิดจากความผิดปกติของร่างกายส่วนใดส่วนหนึ่งละไปกระทบอีกส่วนหนึ่งได้  แล้วยังมีอวัยวะบางส่วนที่ส่งผลกระทบถึงกันได้ด้วย  แต่ก็มีหลายโรคที่เชื่อมต่อด้วยกันอย่างเช่นเล็บที่สามารถบอกถึงความผิดปกติของร่างกายได้บางอย่าง อย่างเช่นโรคเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์  และยังมีโรคอีกมากที่เล็บสามารถบอกความผิดปกติเกราะมีความเชื่อมโยงกัน  การขาดสารอาหารบางอย่างมีผลกระทบกับเล็กได้อย่างเช่นแร่ธาตุและวิตามิน ดังนั้นแล้วการที่เล็บของเรามีความผิดปกติก็บ่งบอกจึงอาการของโรคที่จะตามมาได้เราควรที่จะดูแลเล็บของตัวเองบ่อยๆ

ความผิดปกติของต่อมไทยรอยด์ เช่นไฮเปอร์ไทรอยดิลิซึม หรือไฮไทยนอยลิซึม  มีการเชื่อมโยงกับเล็บและต่อมไทรอยด์  มักจะเกิดขึ้นกับเล็บมือจะเป็นนิ้วกลางและนิ้วก้อย  เล็บจะมีลักษณะโกรงตัวขึ้นออกจากนิ้วมือ  ซึ่งส่งผลทำให้สิ่งสกปรกและแบคทีเรียเข้าไปในเล็บได้ง่ายด้วยหัวใจและหลอดเลือด ปัญหาทั้งหลายเกี่ยวกับหัวใจเช่น  ความดันผิดปกติ  มีคอเลสเตอรอลในเลือดสูง  โดยเล็บสามารถบอกถึงความผิดปกติ  จะเป็นเส้นเลือดสีแดงอยู่ในเล็บหรือจะเป็นเศษเลือดภายในเล็บ  หรือเล็บนุ่มไม่แข็งแรงเหมือนเก่าความเครียด มีการพบว่าคนจำนวนไม่น้อยเครียดแล้วจะกัดแทะเล็บตัวเอง  ซึ่งจะทำให้เล็บฉีกอาจเหมือนจะไม่ร้ายแรงแต่สามารถนำเชื้อโรคเข้าไปในเล็บได้ง่ายขึ้น  ทำให้เล็บติดเชื้อต่างๆตามาได้หากพบว่าคนใกล้ตัวเรากัดเล็บควรที่จะนำไปพบแพทย์เพื่อตรวจสอบสภาพจิตใจว่ามีความเครียดสูงหรือให้ผ่อนคลายบ้างโรคเบาหวาน เล็บจะเห็นสีเหลืองมีแนวโน้มที่จะเกี่ยวข้องกับการเป็นเบาหวาน  โดยจะเหลืองทั้งเล็บและนิ้วมือ  แต่จะเห็นได้ชัดเจนที่เล็บ  เนื่องจากระดับน้ำตาลมีส่วนเกี่ยวกับกับโปรตีนในเล็บ  หากพบว่ามีเล็บที่เหลืองมากกว่าผิดปกติหรือว่าเป็นบากแผลแล้วหายช้า  กระหายน้ำบ่อยควรไปพบแพทย์โรคข้ออักเสบ โรคเกี่ยวกับข้ออักเสบ มักเกี่ยวข้องกับเล็บด้วยเพราะว่าการขาดแคลเซียมและโปรตีนมีผลต่อทั้งเล็บและกระดูก ทำให้เล็บหักง่าย  ฉีกง่าย  เปราะบางโรคสะเก็ดเงิน เล็บจะเหลืองและมีผิวที่ไม่สม่ำเสมอจะเป็นหลุมลงไปโภชนาการบกพร่อง เล็บสามารถบอกได้ว่าร่างกายของเราขาดสารได้บางตัว  หากต้องการเล็บสวยต้องรับประทานอาหารที่มีโอเมก้า 3 ไขมัน  โปรตีน  และเหล็ก  หากเล็บซีดและสีขาว  มักพบกับคนที่ขาดธาตุเหล็กเป็นโลหิตจาง  และได้รับโปรตีนที่น้อยนอกจากนั้นยังพบว่าโรคขาดสารอาหารบางอย่างเหล่านี้จะทำให้เล็บมีรูปร่างที่ผิดปกติด้วยการติดเชื้อ เล็บเป็นส่วนหนึ่งที่อยู่ปลายนิ้วจะทำให้สัมผัสเชื้อโรคได้ง่าย  โดยจะมีลักษณะสีแดงมีอาการคันที่รอบเล็บ  เล็บเท้ามีความเสี่ยงในการติดเชื้อมากส่วนมากจะเป็นเชื้อรา  แบคทีเรีย  ถึงแม้จะเป็นแค่ที่เล็บแค่ยังบ่งบอกจึงภูมิคุ้มกันอ่อนแอด้วย  เชื้อแบคทีเรียทำให้เล็บไม่น่าดูและหลุดออกมาง่ายหากมีรักษาอาจจะเปลี่ยนรูปไปตลอด

เพิ่มเติม  ป้องกันเล็บติดเชื้อ

สวมถุงมือเมื่อต้องนำมือไปสัมผัสสิ่งของสกปรก อย่างเช่นทำความสะอาด  ทำสวนทำการตัดเล็บให้สั้นพอไม่มากไม่น้อยอย่างสม่ำเสมอ อย่างทำการฉีกเล็บหากพบว่าเล็บฉีกให้ตัดออกเมื่อเล็บแห้งใช้ครีมหรือน้ำมันทาเล็บเพื่อให้เล็บชุ่มชื่นอยู่ตลอดเวลาหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารเคมีที่รุนแรงให้ล้างมือด้วยสบู่ที่อ่อนไม่ควรใช้สบู่ที่รุนแรง