วันจันทร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2558

อุกกาบาตตกในประเทศไทย

เป็นกระแสฮือฮาตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาเลยก็ว่าได้ หลังจากเมื่อเวลาประมาณ 8.50 น. ของวันที่ 7 ก.ย. ที่ผ่านมา ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และในหลาย ๆ จังหวัด เกิดลูกไฟประหลาดตกลงมาจากท้องฟ้า

ซึ่งในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพลูกไฟดังกล่าว พร้อมให้ความเห็นที่แตกต่างกัน บ้างก็ว่ามีลักษณะคล้ายดาวตก ขณะที่อีกส่วนหนึ่งเห็นว่านั่นอาจเป็นเพียงกลุ่มควัน  MThai ข่าวภาคซ่าส์จะมาพูดถึงเรื่องนี้กัน

ดร.ศรัณย์  โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ได้ออกมาอธิบาย​ถึง​ลูกไฟ​ดัง​กล่าว​ว่า​ จากหลักฐานที่ปรากฏ ทั้งภาพถ่ายและคลิปวิดีโอ ที่ประชาชนบันทึกไว้ มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็น ลูกไฟ (Fireball) ที่เกิดจากอุกกาบาตขนาดเล็กผ่านเข้ามาในชั้นบรรยากาศโลกด้วยความเร็วสูงมาก เสียดสีจนเกิดความร้อนจนลุกไหม้ เห็นเป็นลูกไฟและมีควันขาวที่เห็นเป็นทางยาว มีความสว่างมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับมวลของวัตถุนั้น ๆ

ดร.ศรัณย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากภาพวีดีโอที่ประชาชนได้บันทึกไว้ พบข้อสังเกตหลายอย่าง เช่น ภาพจากคลิปวีดีโอจากกาญจนบุรี และนนทบุรี ตำแหน่งทั้งสองห่างกันประมาณ 100 กิโลเมตร แต่สามารถมองเห็นแสงวาบได้พร้อมกันแสดงว่าจุดกำเนิดของแสงวาบดังกล่าวอยู่สูงจากพื้นดินค่อนข้างมาก

ตามปกติวัตถุที่เข้ามาในชั้นบรรยากาศโลก จะเสียดสีและเกิดการลุกไหม้ ที่ระดับความสูงประมาณ 80-120  กิโลเมตร  ส่วนเสียงที่ได้ยินนั้นอาจเกิดจากคลื่นกระแทกจึงทำให้เกิดเสียงดังขึ้น เนื่องจากวัตถุเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง เร็วกว่าเสียง  ส่วนจะตกบริเวณใดนั้นยังไม่ทราบแน่ชัด เนื่องจากยังไม่มีผู้พบเห็นหลักฐานการตกว่าเป็นบริเวณใด หรืออาจไม่พบเลยก็ได้ หากถูกเผาไหม้หมดในชั้นบรรยากาศ

วัตถุที่สามารถทำให้เกิดปรากฏการณ์แบบนี้ได้ มีอยู่หลายชนิด เช่น ดาวเคราะห์น้อยที่มักเข้ามาใกล้โลกเสมอ ๆ เศษซากดาวเทียมที่หมดอายุการใช้งานและถูกปล่อยทิ้งไว้ในวงโคจร ก็อาจถูกแรงดึงดูดของโลกดึงกลับมาในชั้นบรรยากาศก็เป็นได้

เหตุการณ์นี้นับเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น เพราะเห็นได้ในเวลากลางวันกลางกรุงเทพฯ และเห็นได้ในหลายพื้นที่ แต่ไม่ต้องตื่นตระหนกตกใจ เพราะโอกาสที่จะเกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินนั้นมีความเป็นไปได้น้อยมาก ในแต่ละวันจะมีอุกกาบาตตกลงมาบนพื้นโลกเป็นจำนวนมาก โดยทั่วไปจะเห็นเป็นลักษณะคล้ายดาวตก ในทางดาราศาสตร์ถือเป็นเรื่องปกติและสามารถอธิบายได้

หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ผู้คนไม่ว่าจะเป็นในโลกออนไลน์หรือชาวบ้านที่ได้พบเห็นต่างพากันตื่นกลัว และเกรงว่าจะเกิดภัยอันตรายต่อประเทศ ทางโหรชื่อดังเมืองไทยหลายราย ได้ออกมาทำนายทายทักถึงเหตุการณ์อุกกาบาตตกครั้งล่าสุดในมุมมองที่ต่างกัน แม้ผู้เชี่ยวชาญจะออกมาระบุว่า อุกกาบาตตกดังกล่าวไม่เป็นอันตราย และสามารถเกิดขึ้นได้ทั่วโลก

โดยนายโสรัสจะ นวลอยู่ โหรชื่อดังฉายานอสตราดามุสเมืองไทย เผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเชื่อว่าเป็นลางร้ายที่อาจเกิดขึ้นในประเทศไทย เพราะโบราณเชื่อว่าจะแห้งแล้งหนัก ต้องแย่งน้ำกัน เป็นกลียุคข้าวยากหมากแพง และเป็นลางร้ายกับประเทศ

ซึ่งตรงกันกับโหราศาสตร์ในการโคจรของดวงดาวที่จะบอกอนาคตและย้อนอดีตได้ นับว่ามาเตือนเรื่องภัยพิบัติ เกิดการแปรปรวนของดินฟ้าอากาศ โรคอุบัติใหม่ไม่มียารักษา ถ้าไม่เร่งแก้ไขจะกลายเป็นความตายของคนทั้งประเทศ

ส่วน นายภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล ซินแสชื่อดัง กล่าวว่า ตามโหราศาสตร์ไทยถือว่าไม่ดีอยู่แล้ว ส่วนตนยึดโหราศาสตร์จีน มองว่าจะมีการฟื้นฝอยหาตะเข็บ มีเรื่องจุกจิกวุ่นวายมีคลื่นใต้น้ำก่อตัวมาก งานรัฐบาลจะเกิดสภาวะอย่างนั้น คนที่อยู่เก่าจะไม่มั่นใจหรือมีปัญหาที่จะตามมา แต่ที่เป็นห่วงคือเดือน ต.ค.เพราะจะมีระเบิด ปืน ไฟ ขึ้นอีก รัฐบาลต้องคุมเกมให้ได้

ขณะที่ นายภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ กล่าวเช่นเดียวกันว่า เป็นเรื่องนิมิต เป็นเรื่องธรรมชาติที่ คล้าย ๆ เทวดาฟ้าดินคล้ายส่งสัญญาณเตือนอะไรสักอย่าง เพื่อให้มนุษย์สำนึก เช่น ภาวะทางการเมือง การบริหารงานราชการแผ่นดิน อาจเกิดเหตุการณ์ร้ายๆ ที่สำคัญขึ้น ต้องมีการระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง

แต่นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ โหร คสช. กล่าวตรงข้ามกับโหรรายอื่น ๆ ว่า เป็นปรากฎธรรมชาติเป็นความบังเอิญ ไม่ได้เป็นลางร้ายหรืออาเพศอะไร ไม่น่าจะมีเหตุอะไรเกิดขึ้นกับบ้านเมือง

อย่างไรก็ตามในทางดาราศาสตร์ ได้อธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นไว้ว่า อุกกาบาตตกลงบนพื้นโลกถือเป็นปรากฎการณ์ปกติ และไม่มีอันตรายใด ๆ โดยเฉลี่ยแล้วมีอุกกาบาต ตกลงมาในไทยปีละประมาณ 20 ลูก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น