วันพุธที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2560

แฟ้มภาพ

การนอนหลับให้เพียงพอ เป็นปัจจัยสำคัญสำหรับร่างกาย เพราะในขณะที่คุณกำลังพักผ่อน ร่างกายจะเริ่มซ่อมแซมส่วนต่างๆ ตั้งแต่เซลล์ผิวที่เสียหายไปจนถึงการขับสารพิษที่สะสมอยู่ในสมอง ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมให้ร่างกายก่อนที่จะเริ่มวันใหม่ แน่นอนว่าหากคุณนอนไม่พอจะส่งผลต่อสุขภาพของคุณในระยะสั้นและระยะยาว เป็นสาเหตุที่ทำให้คุณเสี่ยงป่วยเป็นโรคหัวใจ อาการอักเสบ ภาวะซึมเศร้า และระบบภูมิคุ้มกัน

ดังนั้นเพื่อสุขภาพที่ดีของคุณ วันนี้เราจึงมี 5 ข้อที่คุณควรปฏิบัติก่อนนอน ช่วยให้หลับได้ง่ายมากยิ่งขึ้น มานำเสนอ

1. นั่งสมาธิ

จากการวิจัยในปี 2015 พบว่าการนั่งสมาธิวันละ 5-20 นาที จะช่วยให้คุณนอนหลับได้เร็วขึ้นกว่าวิธีอื่น การฝึกสมาธิจะช่วยลดความเครียดและทำให้จิตใจสงบนิ่ง ลองนั่งสมาธิก่อนนอนด้วยการเพ่งไปที่ลมหายใจเพื่อขจัดอารมณ์ต่างๆ ในจิตใจ หากจิตใจยังเตลิดก็เพ่งไปที่ลมหายใจใหม่และสังเกตความคิดโดยปราศจากการตัดสินใดๆ เพื่อไม่ให้สมองของคุณรู้สึกว่าถูกกระตุ้น

2. ใช้กลิ่นเข้าช่วย

รู้หรือไม่กลิ่นคือตัวช่วยสำคัญที่ทำให้คุณนอนหลับได้สบายมากยิ่งขึ้น น้ำมันหอมระเหยกลิ่นลาเวนเดอร์จะช่วยให้จิตใจสงบและนอนหลับได้ง่ายขึ้น เนื่องจากเชื่อว่ามีฤทธิ์ต่อสารสื่อประสาทในสมอง กลิ่นลาเวนเดอร์จะช่วยลดทั้งอัตราการเต้นของหัวใจและความดันโลหิตซึ่งจะช่วยให้คุณนอนหลับได้เร็วขึ้น สำหรับตอนเช้าหากคุณเป็นคอกาแฟกลิ่นกาแฟหอมนี้จะช่วยให้คุณตาสว่างขึ้นมาเกือบทันที

3. ตื่นนอนให้ตรงเวลา

จงตื่นนอนเวลาเดียวกันทุกวัน (16 ชั่วโมงก่อนการนอนครั้งต่อไป) เนื่องจากหลังจากที่คุณตื่นนอนมาแล้ว 16 ชั่วโมง จะเกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า Sleep Pressure เข้ามารับช่วงต่อ นอกจากนี้การตื่นนอนตอนตีห้าครึ่งหรือหกโมงนั้นเป็นเรื่องที่ดีและถ้าคุณเริ่มรู้สึกง่วงตอนประมาณสี่ทุ่มแล้วล่ะก็ กระโดดขึ้นเตียงได้เลย

4. เย็นดีกว่าร้อน

หากคู่รักของคุณชอบนอนท่ามกลางอากาศร้อนๆ แต่คุณชอบอากาศเย็นๆ ถือว่าคุณชนะ! เหตุผลคือโดยธรรมชาติอุณหภูมิร่างกายของคนเราจะตกลงก่อนช่วงเวลานอนซึ่งยังไม่รู้แน่ชัดว่าเพราะอะไร แต่มีทฤษฎีหนึ่งกล่าวว่านี่คือการกักเก็บพลังงานของร่างกาย การนอนในห้องที่อุณหภูมิสูงจะทำให้ร่างกายของคุณต้องทำงานหนักเพื่อปรับอุณหภูมิในร่างกายส่งผลให้คุณตื่นบ่อยขึ้นและนอนหลับไม่ต่อเนื่อง ดังนั้นการนอนในห้องที่มีอุณหภูมิประมาณ 25 องศาเซลเซียส จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

5. ปรับท่านอนใหม่

เมื่อสมองของคุณต้องทำงานหนักมาตลอดทั้งวัน ปัญหาที่เกี่ยวกับกระบวนการเผาผลาญจึงก่อตัวขึ้น โชคดีที่กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ค้นพบแล้วว่าสมองของเรามีระบบขับสารพิษและของเสียออกจากสมองเพื่อช่วยรักษาการทำงานของสมองให้เป็นปกติ ซึ่งจะทำงานตอนกลางคืน ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าการทำความสะอาดในตอนกลางคืนจะช่วยในเรื่องความจำ เพิ่มพลังงาน และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน การนอนหลับไม่เพียงพอจะขัดขวางระบบการทำงานนี้ การวิจัยล่าสุดยังพบอีกว่าการนอนตะแคงจะทำให้ของเสียไหลเวียนสะดวกกว่าการนอนหงายหรือนอนคว่ำเมื่อมีการทดลองกับหนู

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น