วันพุธที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2560

ดร. นาโอมิ พริสต์ จากศูนย์ศึกษาสุขภาวะชุมชน แม็คคาวอี้ วิคเฮลท์ มหาวิทยาลันเมลเบิร์น (the mccaughey vichealth centre for community wellbeing) กล่าวว่า จากการทบทวนการศึกษาวิจัยที่ผ่านมา พบว่า มีกรณีศึกษา 461 รายที่แสดงให้เห็นว่า การเหยียดสีผิวและเชื้อชาติเป็นปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อสุขภาพและสุขภาวะโดยรวมของเด็กและเยาวชน อาทิเช่น การรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า จิตใจอ่อนแอ ปัญหาทางพฤติกรรมเพิ่มขึ้น และระดับของสุขภาวะลดลง

โดยระบุว่า การเหยียดเชื้อชาติในระดับ 'ปัจเจกบุคคล' มีมากกว่าใน 'ระดับสถาบัน' หรือที่เรียกว่า “การเหยียดเชื้อชาติเชิงระบบ” ในเชิงของสุขภาพ เป็นผลให้พบว่าผู้หญิงที่มีประสบการณ์ในการถูกเหยียดสีผิวและเชื้อชาติระหว่างตั้งครรภ์ จะส่งผลกระทบต่อการให้กำเนิดบุตร

ทั้งนี้การศึกษาที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ทำในประเทศสหรัฐอเมริกาในกลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 12-18 ปี กลุ่มเชื้อชาติ/ชาติพันธุ์/ส่วนใหญ่ที่ได้รับการศึกษาก็คือ แอฟริกัน-อเมริกัน ลาตินอเมริกาใต้-เอเชีย รวมถึงเอเชียตะวันออก เอเชียใต้ และ เอเชียกลุ่มอื่นๆ

ดร. นาโอมิ กล่าวต่อว่า การทบทวนการศึกษาครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า ปัญหาดังกล่าวจำเป็นต้องถูกแก้ไขในระดับสังคม โรงเรียน และชุมชน เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นของเด็กและเยาวชน “เรารู้ว่าเด็กๆ ที่ประสบกับปัญหาสุขภาพและสุขภาวะที่แย่ลง มีแนวโน้มน้อยมากที่จะเข้าสู่ระบบการศึกษา การจ้างงาน และกิจกรรมอื่นๆ ทางสังคมที่จะนำไปสู่การมีชีวิตที่มีคุณภาพและการมีส่วนร่วมในชุมชนอย่างมีความหมาย”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น